.
HOMETOWN & UNIVERSITYNEWS & INFORMATIONCOURSESGALLERYFORUM 4UFAQs
How to study Chinese | ทุกคำถามเกี่ยวกับการเรียนจีน

สถานที่ติดต่อที่สำคัญในจีน

ชื่อ
อีเมลล์
สถานเอกอัครราชฑูตกรุงปักกิ่ง (86-10) 8531-8700 [email protected]
สถานกงสุลใหญ่ ณ นครเซี่ยงไฮ้ (86-21)5260-9899 [email protected]
สถานกงสุลใหญ่ ณ นครกวางเจา (86-20) 8385-8988 [email protected] , [email protected]
สถานกงสุลใหญ่ ณ นครคุนหมิง (86-871)6316 8916,6314 9296 [email protected]
สถานกงสุลใหญ่ ณ นครเฉิงตู (86 28) 6689-7861 [email protected]
สถานกงสุลใหญ่ ณ นครหนานหนิง (86-771) 5526945-47 [email protected]
สถานกงสุลใหญ่ ณ นครซีอาน (86-29) 89312831,89312863 [email protected]
สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองเซี่ยเหมิน (86-592) 202-7980,7982 ext.101,102 [email protected]
สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองชิงเต่า (86-532) 6887 – 7038 , 6887 – 7039 [email protected]
สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองฮ่องกง (852) 2521-6481 to 5 [email protected]
การบินไทย (662)676-1501
China Southern Airline Domestic Hotline 95539-2-1 International Hotline 95539-2-2
Air China 001-80086100999
China Eastern Airline (86-21)95530

ไปเรียนเมืองจีนจะต้องใช้เงินเท่าไร และ มีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง

ประเมินค่าใช้จ่ายโดยประมาณ ต่อ เทอมการศึกษา (ประมาณ 20 สัปดาห์) หน่วยเงิน : บาท
  • ค่าใช้จ่ายโดยประมาณก่อนการเดินทาง

ค่าตั๋วเครื่องบินไป - กลับ ตั๋วนักเรียน (ขึ้นอยู่กับเมืองปลายทาง)

ค่าทำวีซ่าเข้าประเทศจีน ต่อการเข้า 1 ครั้ง

ค่าใช้จ่ายในการโอนเงินระหว่างประเทศ ต่อ 1 ครั้ง (ขึ้นอยู่กับสกุลเงินที่โอน)

ค่าตรวจร่างกาย (สำหรับนักศึกษาที่ลงทะเบียนเรียนมากกว่า 1 เทอมขึ้นไป)

 

12,000 - 25,000

1,650

600 - 1,300

1,500

  • ค่าใช้จ่ายในการเรียน (ขึ้นอยู่กับมหาวิทยาลัย)

ค่าเล่าเรียน ประมาณ 6,000 - 12,000 หยวน ต่อ เทอมการศึกษา (หลักสูตรภาษาจีนปกติ)

ค่าลงทะเบียน 150 - 600 หยวน

ค่าหนังสือ 300 หยวน

ค่าเช็คผลตรวจร่างกาย (สำหรับนักศึกษาที่ลงทะเบียนเรียนมากกว่า 1 เทอมขึ้นไป) ประมาณ

ค่าทำ Resident Permit (สำหรับนักศึกษาที่ลงทะเบียนเรียนมากกว่า 1 เทอมขึ้นไป) ประมาณ

ค่าทำประกันอุบัติเหตุ ต่อหนึ่งเทอมการศึกษา ประมาณ 400 หยวน

 

27,000 - 54,000

675 - 2,700

1,350

400

2,500

1,800

  • ค่าใช้จ่ายสำหรับหอพัก (ขึ้นอยู่กับมหาวิทยาลัย)

ค่าที่พักห้องคู่ ห้องน้ำส่วนตัว ราคาประมาณ 20 - 80 หยวน ต่อ วัน ต่อ คน

ค่าที่พักห้องเดี่ยว ห้องน้ำส่วนตัว ราคาประมาณ 40 - 150 หยวน ต่อ วัน ต่อ คน

 

90 - 177

180 - 675

  • ค่าอาหาร (ขึ้นอยู่กับเมือง)

เฉลี่ยมื้อละ 10 - 20 หยวน ต่อ มื้อ หรือ ประมาณ 30 - 60 หยวน ต่อ วัน

 

135 - 270

รวมค่าใช้จ่ายโดยประมาณทั้งสิ้น ( คิดจากห้องคู่)
79,850 - 177,250

หมายเหตุ

  • 1 หยวน = 4.5 บาท
  • ราคาประมาณการนี้ คิดจากค่าครองชีพในเมืองปักกิ่ง อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตามเมืองต่างๆ
  • ระยะเวลาประมาณ 135 วันต่อหนึ่งเทอมการศึกษา
  • ข้อมูลในตารางข้างต้น เป็นการประเมินค่าใช้จ่ายแบบคร่าว ๆ ซึ่งช่วยให้สามารถวางแผนการเงิน เบื้องต้นสำหรับผู้ที่กำลังจะตัดสินใจไปเรียน หากมีค่าใช้จ่ายใดที่นอกเหนือจากที่ได้จัดทำนี้ ทางทีมงาน ORENต้องขออภัยและโปรดกรุณาแนะนำเข้ามา เพื่อทางทีมงานจะได้ปรับปรุงต่อไป

ตัวอย่างสินค้าอุปโภคบริโภคและค่าบริการตามเมืองใหญ่ (โดยประมาณ)

ค่าตั๋วเครื่องบินปักกิ่ง - เซี่ยงไฮ้ประมาณ (เที่ยวเดียว)
ค่าโดยสารรถไฟ ปักกิ่ง - เซี่ยงไฮ้
ค่าโดยสารรถไฟใต้ดิน (ปักกิ่ง)
ค่าโดยสารรถไฟใต้ดิน (เซี่ยงไฮ้)
ค่าโดยสารรถประจำทาง
ค่ารถแท็กซี่ (สำหรับ 3 กิโลเมตรแรก กิโลเมตรถัดไปคิด 1.2 - 1.6 หยวน)
รถจักรยาน (มือใหม่)
หนังสือพิมพ์
ค่าถ่ายเอกสาร A4 หน้าละ
บัตรชมภาพยนตร์
แมคโดนัลด์ (อาหารชุด)
ข้าวสาร / ครึ่งกิโลกรัม
ผักสด / ครึ่งกิโลกรัม
ไข่ไก่ / ครึ่งกิโลกรัม
น้ำดื่ม 600 มล.
ยาสีฟันคอลเกต ขนาด 150 กรัม
โฟมล้างหน้า Pond หรือ Biore ขนาด 100 กรัม
ยาสระผม Pantene ขนาด 250 กรัม
สบู่เหลว Johnson Baby ขนาด 300 มล.
แผ่นรองอนามัย Carefree 10 ชิ้น
บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป
ผงซักผ้า OMO ขนาด 1200 กรัม
คอมพิวเตอร์
โทรศัพท์มือถือ Huawei

6,500
1,900
10 - 15
10 - 20
5 - 20
35 - 50
2,000
2.50 - 7.50
10
100
100
17.50
1 - 1.50
25
7.50
40
115
100
75
45
15
67.50
22,000 ขึ้นไป
10,000

หมายเหตุ

  • 1 หยวน = 4.5 บาท
  • ราคาประมาณการนี้ คิดจากค่าครองชีพในเมืองปักกิ่ง ซึ่งอ้างอิงจากการสำรวจเมื่อเดือนมีนาคม ปี 2546 อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้
  • ข้อมูลในตารางข้างต้น เป็นการประเมินค่าใช้จ่ายแบบคร่าว ๆ ซึ่งช่วยให้สามารถวางแผนการเงิน เบื้องต้นสำหรับผู้ที่กำลังจะตัดสินใจไปเรียน หากมีค่าใช้จ่ายใดที่นอกเหนือจากที่ได้จัดทำนี้ ทางทีมงาน ORENต้องขออภัยและโปรดกรุณาแนะนำเข้ามา เพื่อทางทีมงานจะได้ปรับปรุงต่อไป

การเรียนเมืองจีนมีหลักสูตรอะไรบ้าง

วีซ่าเข้าเมืองจีนมีกี่ประเภท ค่าใช้จ่ายเท่าไร

ประเภทของวีซ่า

  1. วีซ่า L (Travel) เป็นวีซ่าท่องเที่ยว มีระยะเวลา 30 วันขึ้นไป นับแต่วันที่เดินทางเข้าประเทศ ขึ้นกับเอกสาร หลักฐานที่ใช้ยื่นขอวีซ่า สามารถใช้กับการเรียนหลักสูตรระยะสั้นที่ ไม่เกินระยะเวลาที่ระบุ
  2. วีซ่า F (Business) เป็นวีซ่าแบบธุรกิจ มีระยะเวลา 90 - 180 วันนับจากวันที่เข้าประเทศจีน สามารถใช้กับการเรียนหลักสูตรระยะ 3 เดือน ถึง 1 เทอม
  3. วีซ่า X (Student) เป็นวีซ่าสำหรับนักเรียน แบ่งเป็นวีซ่า X1 (ระยะเวลาไม่เกิน 180 วัน) และ X2 (เกิน 180 วัน) มีระยะเวลา 1 ปี นับจากวันที่เดินทางเข้าประเทศจีน ใช้กับนักศึกษาหลักสูตรระยะยาว
  4. วีซ่า Z (Working) เป็นวีซ่าสำหรับผู้ที่เดินทางเข้าไปทำงานในเมืองจีน
  5. วีซ่า D (Resident) เป็นวีซ่าสำหรับผู้อยู่อาศัยต่างด้าว
  6. วีซ่า G (Transit) เป็นวีซ่าสำหรับผู้ที่ต้องการเดินทางผ่านประเทศจีนเพื่อไปต่อยังประเทศอื่น
  7. วีซ่า C (Stewardess) เป็นวีซ่าสำหรับพนักงานของสายการบิน
ระยะเวลาทำการ 4 วันทำการ นับรวมวันที่ยื่นขอ (ไม่นับวันหยุดเสาร์ - อาทิตย์, วันหยุดราชการและวันหยุดนักขัตฤกษ์)
หลักฐาน ในการยื่นขอวีซ่า
  1. รูปถ่ายสีขนาด 1 นิ้ว จำนวน 1 ใบ
  2. สำเนาหนังสือตอบรับจากทางมหาวิทยาลัย (JW202 และ Admission Notice) พร้อมเอกสารตัวจริง
  3. สำเนาใบตรวจร่างกาย พร้อมเอกสารตัวจริง (สำหรับผู้ที่สมัครเรียนตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไป)
  4. หนังสือเดินทางตัวจริง
ค่าธรรมเนียม
(สำหรับหนังสือเดินทางไทย)
  • ราคาสำหรับการรับปกติ 1,000 บาท
  • เร่งด่วน (2-3 วันทำการ) 1,800 บาท
  • เร่งด่วน (รับภายในวันเดียว) 2,200 บาท
สถานที่ทำวีซ่า อาคารธนภูมิ ชั้น 5, 1550 ถนน เพชรบุรีตัดใหม่ แขวง มักกะสัน เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร 10400โทร. 0-2208-5888
เวลายื่นขอวีซ่า วันจันทร์ - วันศุกร์ เวลา 09.00 - 11.30

ข้อแนะนำในการเลือกสถานศึกษา

บทความนี้เป็นแนวทางพอสังเขปสำหรับผู้ที่สนใจจะเดินทางไปศึกษาต่อยังประเทศจีน เพื่อใช้เป็นข้อพิจารณาหรือหลักเกณฑ์เบื้องต้น สำหรับการเลือกสถานศึกษา ก่อนทำการตัดสินใจ

ในที่นี้จะขอกล่าวเน้นเฉพาะการเลือกเรียนในหลักสูตรภาษาจีนทั้งระยะสั้น และระยะยาว ซึ่งปัจจุบันมีผู้ให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก โดยสามารถแจกแจงได้ ดังนี้

  1. กำหนดช่วงเวลาที่สนใจ และ ระยะเวลา เช่น 1 เทอม หรือ 2 ปี เป็นต้น และ ควรกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจน ของตัวเราเอง เช่น มีเป้าหมายจะเรียนเพื่อนำมาใช้ประโยชน์ทางด้านใด หรือ เพื่อจะฝึกฝนเน้นเฉพาะทางด้านใด และ จำเป็นต้องเรียนให้มีความรู้ความสามารถระดับไหนจึงจะเพียงพอ ทั้งนี้ก็เพื่อนำมาใช้เป็นตัวกำหนดว่าเราควรจะใช้ระยะเวลาเรียนนานเท่าใด
  2. งบประมาณ โดยเปรียบเทียบในเรื่องของค่าใช้จ่ายหลักๆ เช่น ค่าเล่าเรียน และ ค่าที่พักของแต่ละสถาบัน รวมถึงค่าครองชีพของเมืองนั้น ๆ
  3. สอบถามและค้นหาข้อมูลต่าง ๆ ของสถาบันที่สนใจ ใ ห้มากที่สุดจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งใน และ ต่างประเทศ ความถนัดเฉพาะในสาขาวิชาของสถาบันนั้น ๆ รวมถึงระยะเวลาในการก่อตั้ง ประสบการณ์การสอน และ ผลงานความสำเร็จในอดีตที่ผ่านมา รวมทั้งหาโอกาสสอบถามพูดคุยกับผู้ที่เคยศึกษามาก่อนจากสถาบันนั้น จะเป็นการดียิ่ง
  4. ปัจจัยแวดล้อมอื่น เช่น สภาพเมือง สภาพอากาศ ที่ตั้งของมหาวิทยาลัย ความสะดวกในการเดินทาง เช่น หากร่างกายไม่ชินกับสภาพอากาศหนาวอย่างทางเหนือก็ควรเลือกเรียนในเมืองที่อยู่ทางตอนใต้ซึ่งมีอากาศอบอุ่นกว่า และมีรสชาติและความหลากหลายของอาหารที่อุดมสมบูรณ์มากกว่าเมืองทางฝั่งเหนือ
  5. สำหรับการเลือกเรียนภาษาสิ่งที่ควรนำมาพิจารณาเพิ่มเติม อาทิเช่น
  • การแบ่งระดับชั้นเรียน ว่ามีมากน้อยแค่ไหน (โดยทั่วไปสถาบันที่มีการแบ่งซอย ระดับชั้นเรียนมาก มีโอกาสที่จะได้เรียนในระดับชั้นที่เหมาะสมกับระดับ ความสามารถของตัวเองมาก)
  • จำนวนนักเรียนต่างชาติทั้งหมด ซึ่งมีความสัมพันธ์กับปัจจัยในข้อที่แล้วซึ่งไม่ควรมีมากหรือน้อยเกินไป นอกจากนั้นจำนวนของนักเรียนไทยก็เป็นปัจจัยหนึ่งที่ควรนำมาพิจารณา เพราะจะมีผลโดยตรงต่อการสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีในการเรียนภาษาเช่นกัน
  • จำนวนนักเรียนต่อห้อง (ซึ่งหากมีจำนวนน้อยก็ยิ่งมีโอกาสในการฝึกฝนและซักถามได้มาก)
  • บรรยากาศในการเรียน และ อื่น ๆ เช่น สภาพหอพัก ร้านอาหาร ร้านค้า รวมถึงสาธารณูปโภค และ สิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ วิธีที่ดีที่สุดคือการเดินทางไปสำรวจด้วยตัวเอง หรือ สอบถามจากผู้รู้ หรือ ตัวแทนที่สามารถให้ข้อมูลได้