จีนไทยรายงานสรุป - เมื่อปลายเดือนพฤศจิกายน ผู้ใช้อินเตอร์เน็ตได้เผยตาราง “ผู้ทรงอิทธิพลที่มีรายได้สูงสุด” ออกมา จากตารางเห็นได้ว่า อุตสาหกรรมบันเทิงของจีน ค่าตัวของดารา “เพิ่มสูงขึ้น” จนกลายเป็นกระแสหลัก ในกลุ่มดาราชาย เจินจื่อตันสามารถเอาชนะหลิวเต๋อหัว ด้วยค่าตัว 12 ล้านกลายเป็น “ราชารายได้สูงสุดคนใหม่” ของวงการภาพยนตร์เมื่อหลายปีก่อน หลี่เหลียนเจี๋ย ได้รายได้จากภาพยนตร์เรื่อง “สามอหังการ์เจ้าสุริยา” เป็นเงิน 100 ล้านหยวน ทำให้ผู้คนพูดไม่ออก ปัจจุบันหลี่เหลียนเจี๋ย เฉิงหลง และโจวยุ่นฟา เป็นต้น ต่างเหมือนกันคือมีผลงานน้อยลง รายได้จึงไม่ได้สูงขึ้น และดารารุ่นใหม่ก็ค่อยๆ กลายเป็นเสาหลัก เพิ่มมูลค่าธุรกิจ ในปี ค.ศ.2009 รายได้นักแสดงจึงมีการสลับสับเปลี่ยนก็เพราะเหตุนี้ เฉิงหลง หลี่เหลียนเจี๋ย โจวยุ่นฟา ทั้ง 3 คนไม่ติดอยู่ในอันดับที่มีนักแสดงรุ่นใหม่เป็นหลักนี้เลย ปีนี้ด้วยภาพยนตร์ 4 เรื่องที่เจินจื่อตันแสดงนำ คือ “องครักษ์เสื้อแพร” “ล้อมเมืองเดือนสิบ” “ยิปมัน จ้าวกังฟูสู้ยิบตา 2” และ “วีรบุรุษจิงหวู่” ทำให้มีรายได้ 12 ล้านหยวนขึ้นไปอย่างไม่ต้องสงสัย ค่าตัวที่สูงลิบลิ่วนี้เอาชนะแม้กระทั่งรายได้ 10 ล้านหยวนของราชาชื่อดังอย่างหลิวเต๋อหัว และ 9 ล้านหยวนของราชาจอเงินอย่างเหลียงเฉาเหว่ย ได้ตำแหน่ง “ราชารายได้สูงสุด” คนใหม่ของวงการไปครอง ทางด้านนักแสดงหญิง จางจื่ออี๋ถึงแม้ยังคงครองอันดับหนึ่ง มีรายได้ 10 ล้านหยวน แต่ 2-3 ปีที่ผ่านมา เธอผู้มีผลงานทั่วโลกกลับไม่มีคนสนับสนุน แต่ที่ปรากฏตัวมากที่สุดกลับเป็นโจวซวิ่นและเจ้าเวย โจวซวิ่นที่ได้รับรางวัลจนมืออ่อน มีรายได้ประมาณ 4.5 ล้านหยวน แต่คนที่รายได้เพิ่มขึ้นเร็วที่สุดยังคงเป็นเจ้าเวย ในช่วงที่ภาพยนตร์เรื่อง “พลิกตํานานโปเยโปโลเย” ออกฉาย รายได้ของเจ้าเวยและเฉินคุนอยู่ที่ประมาณ 1 ล้านหยวน แต่ภาพยนตร์เรื่องนี้ทำให้เจ้าเวยที่เคยได้ชื่อว่า “ยาพิษแห่งบ็อกซ์ออฟฟิศ” ฟื้นคืนชีพขึ้นมา ปัจจุบันมีรายได้ 3.5 ล้านหยวน