HOMETOWN & UNIVERSITYNEWS & INFORMATIONCOURSESGALLERYFORUM 4UFAQs
เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย จากประสบการณ์ชีวิตส่วนตัวในเมืองจีน By Tong

หากสามารถย้อนกลับไปถามความนึกคิดเดิม ๆ ของเด็กเชื้อสายจีนคนหนึ่งเกี่ยวกับเมืองจีน คงอธิบายได้เพียง ภาพของประเทศ ๆ หนึ่ง ที่ใหญ่โตมโหราฬผู้คนมากมายและล้วนแล้วแต่ยากจนเป็นที่ ๆ บรรพบุรุษของผมจากมาและปฏิเสธไม่ได้ว่าส่วนหนึ่งของผม คงมี รากเหง้ามาจากที่นั่น

เป็นเวลากว่า 2 ปี หลังจากที่ได้มีโอกาสเดินทางเพื่อไปศึกษาต่อและท่องเที่ยวยังสถานที่
ต่าง ๆ ในเมืองจีน สิ่งต่าง ๆ ที่ได้สัมผัสมา ทำให้ได้เรียนรู้ว่า เมืองจีนไม่ใช่สถานที่อย่าง ที่ใครจะให้นิยามกับมันได้ ง่าย ๆ ชัดเจน และแน่นอน ด้วยความที่มันใหญ่โตทั้งขนาด หลากหลายด้วยเผ่าพันธุ์ สภาพภูมิประเทศ ภูมิอากาศ ตลอดถึงอาหารการกินที่แตกต่าง กันไปในแต่ละภูมิภาค และ ที่มองข้ามไม่ได้ก็คือ ประวัติศาสตร์จีน ทั้งยุคใกล้และยุคไกล ที่มีอิทธิพลโดยตรงในการหล่อหลอมความเป็นจีนให้ฝังลึกอยู่ในสายเลือดของชาวจีน ตราบ จนทุกวันนี้

ก่อนไปเมืองจีน มีใครบางคนเคยเตือนว่า หากริจะมาเมืองจีน ต้องสอบผ่านให้ได้ 5 ทน
5 ทนที่ว่าคือ
1. ทน คนขากถุยน้ำลาย ไม่เลือกที่ได้
2. ทน พวกสิงห์รมควันได้
3. ทน กับการถูกแซงคิวได้ ข้อนี้สันนิษฐานว่าคนจีน (แผ่นดินใหญ่) คงถูกฝึกมาเฉพาะ การเข้าแถวหน้ากระดาน
4. ทน กับความไร้ระเบียบ ไร้มารยาทของผู้คนในที่สาธารณะได้ เช่น เรื่องรถรา หรือ การพูดจาเสียงดัง
5. ทน ได้กับส้วมจีน และ พฤติกรรมการใช้ส้วมของคนจีน

ฟังดูแล้วค่อนข้างทารุณ แต่หากคิดว่าตัวเองสามารถสอบผ่านอุปสรรคต่าง ๆ เหล่านี้ได้ ก็ให้ จัดแจงเก็บข้าวของ เดินทางไปกันเลยห้ามคิดมาก แต่นอกจาก 5 ทนที่กล่าวมา หากใครคิด จะเดินทางแบบ Back Packer อาจยิ่งเพิ่มความรำคาญใจได้มากเป็นพิเศษ โดยเฉพาะ หากเลือกเดินทางไปยังบริเวณดินแดนชั้นใน (เขตตะวันตกของจีน) ที่ยังมีความเหลื่อมล้ำในเรื่องของความเจริญ แตกต่าง จากดินแดนริมฝั่งทะเล (เขตฝั่งตะวันออกของจีน) อย่างมาก การขึ้นรถ ลงเรือ ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้หาก คิดจะเดินทางในเมืองจีนและมักจะมีโอกาสได้รับประสบการณ์แปลก ๆ อยู่เสมอใน ระหว่าง เดินทางจากการได้มีโอกาสพูดคุยแลกเปลี่ยนกับผู้คนตามรายทาง

การสังเกตพฤติกรรมของชาวจีนที่บางครั้งก็ยากจะเข้าใจ จึงนับเป็นการเรียนรู้วัฒนธรรมที่ดีวิธีหนึ่ง

พูดถึงการเดินทาง ด้วยประเทศจีนเป็นประเทศที่ใหญ่ การเดินทางระหว่างเมืองจึงมักต้องใช้เวลานานนับ 10 ชั่วโมงขึ้นไป จนบางทีให้รู้สึกเหมือนนานชั่วชีวิต เช่น อย่างเส้นทางรถไฟระหว่างเมือง จี้หนาน (Jinan) ทางภาคตะวันออกของจีน ไปจนถึงเมือง อุรุมชี (Urumuqi) ทางภาคตะวันตกอันเป็นแคว้นที่ ประชาชนส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิม ก็ต้องใช้เวลาบน ขบวนรถด่วนกว่า 50 ชั่วโมงจึงจะถึงหรืออย่างรถ โดยสารที่วิ่งระหว่าง อุรุมชี ถึง แคชการ์ (Kashgar) เมืองทางตะวันตกสุดติดกับประเทศในแถบเอเชียกลางก็ต้องใช้เวลากว่า 40 ชั่วโมง ผ่าน ทะเลทราย ทาลามาคาน อันร้อนแล้ง ที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก

ว่ากันถึงเรื่องของอาหารจีน ตอนอยู่เมืองไทยเคยคิดว่าตัวเองเป็นคนชอบอาหารจีน แต่พอมา
ถึงเมืองจีนแล้วก็ต้องเปลี่ยนใจ เพราะอาหารจีนที่คนจีนแท้ ๆ เขากินกัน รสชาติห่างไกลกับ อาหารจีนตามภัตตาคารบ้านเรามากทำให้รู้สึกรักเมืองไทยขึ้นอีกเป็นกอง

ประเพณีวัฒนธรรมต่าง ๆ แบบชาวจีนบ้านเราก็เป็นสิ่งที่พบเห็นได้น้อยในเมืองจีนทุกวันนี้ แม้จะ เริ่มมีการรื้อฟื้นกลับมาใหม่หลังจากเว้นหายไปในช่วงปฏิวัติวัฒนธรรม อย่างเช่น ประเพณี ไหว้พระจันทร์ซึ่งทุกวันนี้ก็เหลือความหมายเพียงแค่ เทศกาลขนมไหว้พระจันทร์ ซึ่งก็คือ ซื้อมากินกันธรรมดา ไม่มีพิธีรีตองหรือกิจกรรมคึกคักเหมือนบ้านเรา แถมในแวดวง สังคมธุรกิจยังถูกเบี่ยงเบนนำมาใช้ในลักษณะการติดสินบน หรือ คอร์รัปชัน เช่น นำ ขนมไหว้พระจันทร์ 2 ชิ้นบรรจุในกล่องสวยหรู ภายในแซมไว้ด้วยไว้ด้วย หงเปา (Hongbao) หรือ ซองเงิน ถึงขนาดไม่ใช่ช่วงเทศกาลก็ยังมีการส่งขนมไหว้พระจันทร์ให้กันเป็นเรื่องปกติ

พูดถึงสาวจีนนั้น ก็ช่างห้าวหาญกล้าแกร่ง จนทุกวันนี้บรรดาเธอ ๆ ก็เริ่มเข้ามาทำอาชีพแทน ผู้ชายมากขึ้นโดยเฉพาะอาชีพขับรถ ตั้งแต่รถประจำทาง รถแท็กซี่ ไปจนถึงรถ 3 ล้อถีบก็มีให้ เห็นกันแล้ว นอกจากนั้นเวลามีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกันกลางถนน สาวจีนมักจะถึงลูกถึงคน ถึงมือถึงเท้า มากกว่าหนุ่ม ๆ จีน ที่โดยมากมักจะใช้เสียงเป็นหลัก หากบรรดาไทยมุง ทั้งหลายคิดจะรอดูมวยสด คงต้องผิดหวัง แต่จะได้ดูการโต้วาทีแทน โดยฝ่ายไหนที่โวยวาย ได้เสียงดังกว่าก็มักจะสามารถเรียกคะแนนสนับสนุนจากจีนมุงได้มากกว่า สังเกตุดี ๆ ในการ แข่งขันกีฬาระดับโลกอย่างกีฬาโอลิมปิค ผู้ที่คว้าเหรียญให้กับจีนส่วนมากก็มักจะเป็นสาวจีน นี่แหละ

ป้ายโฆษณาภาษาอังกฤษ ที่เห็น ๆ กันตามท้องถนน หรือป้ายสินค้าต่าง ๆ ก็มักมีอะไรให้ได้ ขำขันอยู่เสมออย่างตัวอย่างที่ยกมาให้ดู กันเล่น ๆ

"Hi Orange" = ???
แปลตรงตัวจากภาษาจีน
"Wei Dao (รสชาติ) Zhen Hao (ดีจริง)"

หากคุณมีความพร้อมที่จะออกเดินทางเพื่อไปหาความรู้และประสบการณ์ในเมืองจีนก็อย่ามัวรีรอ อยู่เลยจัดแจงเก็บข้าวของแล้วไปลุยกันเถอะครับ