สวัสดีค่ะ!
จากน้ำเสียงใส ๆ และการพูดคุยอย่างเป็นกันเองกับ "น้องบี"
หรือ นางสาวพรพรรณ บุษยเรืองรัตน์ ผู้ได้รับทุนการศึกษาเรียนภาษาจีน
ณ เมืองหังโจว ที่ Zhejiang Gongshang University ทำให้ได้เห็นถึงทัศนคติของน้องคนนี้ว่าเป็นยังไง
ไม่เลวเลยทีเดียวนะครับ
OREN : ช่วยเล่าถึงตัวเองนิดนึงนะครับ
น้องบี : ชื่อเล่นบีค่ะ เกิดเมื่อวันที่
28 เดือนมิถุนายน พ.ศ. 2525 จบมัธยมศึกษาตอนต้นที่โรงเรียนเซ็นต์หลุยส์
หลังจากนั้นต่อมัธยมปลายที่โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา และสอบเข้ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
คณะศิลปศาสตร์ เอกภาษาอังกฤษค่ะ
OREN : อ้อ
! ถ้างั้นก้อบัณฑิตใหม่สินะครับ เกรดเฉลี่ยหล่ะ บอกได้มั้ยครับ
น้องบี : ค่ะ เพิ่งจบค่ะ เกรดเฉลี่ย
3.34 ค่ะ
OREN : เคยเรียนภาษาจีนมาบ้างมั้ยครับ
น้องบี : เคยเรียนภาษาจีนมานิดหน่อยเท่านั้นที่โรงเรียนสอนภาษา
CCC ดังนั้นจึงตัดสินใจสอบชิงทุนโดยใช้ภาษาอังกฤษ
OREN : เหตุผลอะไรที่ทำให้น้องตัดสินใจอยากเรียนภาษาจีนครับ?
น้องบี : เหตุผลที่เรียนภาษาจีนก็เพราะเห็นว่าที่บ้านทำธุรกิจเกี่ยวกับขายอุปกรณ์ก่อสร้าง
ซึ่งหากเราสามารถพูดภาษาจีนได้ ก็อาจจะมีประโยชน์ต่อธุรกิจทางบ้าน
และตอนนี้รู้สึกได้เลยว่า ภาษาจีนมีความสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ
OREN : แล้วเคยไปเมืองจีนหรือเปล่าครับ?
น้องบี : เคยไปครั้งหนึ่งตอนเรียนอยู่มัธยม
5 ก็ไปเยี่ยมย่าที่กวางเจา ประมาณ 1 อาทิตย์ได้ค่ะ
OREN : ความรู้สึกแรกเมื่อรู้ว่าตัวเองได้รับทุนไปหังโจว?
น้องบี : แปลกใจ เพราะตอนที่สอบเสร็จ
เรามั่นใจแค่ 50/50 แต่เพื่อนที่มาสอบด้วยกันอีก 4 คน ดูท่าทางทำข้อสอบได้มากกว่า
พอทราบผลก็ยังงงๆอยู่เหมือนกัน
OREN : ทำไมถึงเลือกสอบชิงทุนไปที่หังโจว?
น้องบี : ตอนแรกก็ไม่ค่อยรู้อะไรเกี่ยวกับเมืองนี้เท่าไหร่
ก็เลยถามจากเพื่อน ทำให้รู้ว่าเมืองนี้เป็นเมืองท่องเที่ยว และก็ยังเป็นเมืองที่สามารถเดินทางไปเมืองอื่นได้สะดวกสบายด้วย
OREN : มีการเตรียมตัวอย่างไร
ก่อนที่จะสอบชิงทุน?
น้องบี : ตอนแรกก็ศึกษาแนวทางของมหาวิทยาลัยที่จะสอบก่อนว่า
เป็นมหาวิทยาลัยด้านธุรกิจ หัวข้อน่าจะเกี่ยวกับด้านธุรกิจ แต่ก็ไม่ได้เตรียมตัวอะไรมาก
ตอบตามความรู้สึกมากกว่า
OREN : งั้นคิดว่าข้อสอบยากเกินไปมั้ย?
น้องบี : ไม่นะคะ เหมาะสมดี
OREN : กลัวมั้ย
กับการที่จะไปประเทศจีนโดยที่ไม่รู้ภาษาจีนเลยหรือพูดไม่ค่อยได้?
น้องบี : ก็ไม่กลัวนะคะ เพราะยังไงคนจีนก็ยังเป็นคนเอเชียเหมือนกัน
ดังนั้นย่อมมีความใกล้ชิดทางวัฒนธรรมอยู่แล้ว และก็เคยไปประเทศเกาหลีแบบพูดภาษาเกาหลีไม่ได้เช่นกัน
ก็คิดว่าการที่เราจะเรียนภาษาให้ได้ดี ก็ควรจะอ่านคำศัพท์เยอะๆ ร่วมกิจกรรมกับเพื่อนในห้องเรียน
ที่สำคัญควรออกไปเที่ยว จะได้นำภาษามาใช้จริง และเราจะต้องไม่กลัวกับการใช้ภาษาด้วย
OREN : แล้วกลัวอะไรที่เมืองจีนหรือเปล่า?
น้องบี : กลัวเรื่องห้องน้ำไม่สะอาด
เพราะได้ยินมาเยอะแล้วกับเรื่องห้องน้ำของเมืองจีน และก็กลัวเรื่องความสะอาดทั่วๆไปและความไม่เป็นระเบียบของคนจีน
แต่ที่พูดมาทั้งหมด จริงๆแล้วก็พอรับได้ เพราะว่าก็เตรียมตัวเตรียมใจไว้แล้ว
OREN : คิดว่าหลังจากเรียนจบแล้วหนึ่งเทอม
ภาษาจีนน้องจะพัฒนาขึ้นหรือไม่?
น้องบี : คิดว่าสามารถพูดใช้ในชีวิตประจำวันได้
ช่วยเหลือตัวเองได้ไม่ลำบาก อย่างไปทานข้าว ซื้อของ
OREN : ตอนนี้น้องมี
โครงการในอนาคตอยู่หรือเปล่า?
น้องบี : จริงๆแล้วมีโครงการอยากไปเรียนภาษาที่เมืองจีนอยู่แล้ว
แต่บังเอิญว่าได้ทุนซะก่อน ก็คิดว่าพอเรียนภาษาจีนจนสามารถใช้การได้จริง
ก็จะกลับมาหางานทำ หรืออาจจะช่วยทำธุรกิจที่บ้านค่ะ
เป็นไงล่ะ จากการสัมภาษณ์ทำให้เห็นถึงความกล้าที่จะลุยไปเมืองจีนของน้องคนนี้
เอาเป็นว่าพี่ๆ OREN ก็ขอเป็นกำลังใจด้วยนะครับ
|