ดารินที่รักจ๊ะ
เห็นจดหมายฉบับนี้แล้วเธอคงไม่เชื่อหรอกนะว่าตอนนี้ฉันกำลังอยู่ที่ไหน
ขณะบันทึกลายมือถึงเธออยู่นี้ ฉันกำลังถูกแผ่นดินผืนหนึ่งทำให้หลงรัก
ทุ่งหญ้าเขียวที่รายล้อมฉันอยู่ ณ ใจกลางแผ่นดินกว้างแห่งเอเชียกลางนี้นำเอาความสดใสมาสู่ฤดูใบไม้ผลิ
และ ตัวฉัน ตรงที่ฉันยืนอยู่นี้หากมองออกไปเบื้องหน้า ก็คือ ทะเลสาบสีครามเข้ม
อันเงียบสงบ มีชื่อว่า "ฮานาส" (Hanas Lake) และที่ ไกลออกไปอีก คือ
ยอดเขาที่ชื่อว่า Friendship Peak อันเป็นจุดบรรจบของดินแดนทั้ง 3
ส่วน คือ จีน (China) มองโกเลีย (Mongolia) และ คาซัคสถาน (Kazakhstan)
ฉันได้ทราบมาจากชาวพื้นเมืองซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวคาซัค
(Kazakhs) ว่า ณ ดินแดนที่ราบสูงแห่งนี้ไม่เคยมีการผ่านเยือนของฤดูร้อน
นอกจากมีเพียงฤดูหนาวอันยาวนาน ผลัดเปลี่ยนกับฤดูใบไม้ร่วง และ ใบไม้ผลิที่หมุนเวียนกันมาสร้างสีสรร
และ เติมลมหายใจให้กับสรรพชีวิตในท้องถิ่นช่วงสั้นๆ
ณ วินาทีนี้ฉันไม่มีอะไรจะบอกเล่ากับเธอมากนัก นอกจากอยากสื่อถึงความสุขสงบใจ
ที่สถานที่แห่งนี้มอบให้กับฉัน ฉันเอง ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าจะได้มีโอกาสมาพบกับ
ฤดูใบไม้ผลิที่เหมือนอย่างในจินตนาการวัยเด็กมากขนาดนี้ ทุกองค์ประกอบรอบตัว
ดูสดใสราวกับอาณาจักรในนิทาน ทุ่งดอกไม้สีเหลือง สีม่วง เบ่งบานชูช่ออยู่ท่ามกลางทุ่งหญ้าใบอ่อนเขียว
ทุกๆ เช้า ฉันมักจะออกเดินลำพังไปตามทางเล็กๆ ริมทะเลสาบเพื่อสูดอากาศ
เย็นฉ่ำ และ ดื่มด่ำกับความสงบเย็นของบรรยากาศรอบตัว ได้ลัดเลาะไปตามคุ้งน้ำที่คดโค้ง
ที่ค่อย ๆ คอดเรียวลงจากตัวทะเลสาบ จนกลายเป็นลำธารสายใหญ่
ฉันมีโอกาส
ได้มายืนให้สายน้ำไหลลอดผ่านเท้าอยู่ริมธารกว้าง ได้รู้สึกว่า ทุกอณูน้ำเย็นฉ่ำที่ไหลผ่าน
ไปเปรียบเหมือนผู้นำสารทางไกลที่ไม่เคยคิดจะหยุดพัก เพื่อนำพาภารกิจไปสู่จุดหมาย
และจากที่ฉันรู้มาแม่น้ำสายนี้ยังเป็นแม่น้ำเพียงสายเดียวในแถบเทือกเขาอัลไต
(Altai) ในเขตประเทศจีน ที่ไหลย้อนขึ้นเหนือเข้าสู่ใจกลางไซบีเรีย
(Siberia) ดินแดนอันเวิ้งว้าง กว้างใหญ่ ก่อนจะไหลเพื่อปลดปล่อยตัวเองลงสู่มหาสมุทรอาร์คติก
(Arctic Ocean) ทางขั้วโลกเหนือ
อย่างที่ฉันบอกไปแล้วน่ะแหละ ว่าชาวพื้นเมืองที่นี่ส่วนใหญ่เป็นชาวคาซัค
และ ก็พูดภาษาจีนไม่ได้ซักคำ แต่ รอยยิ้มและแววตามิตรภาพจากพวกเขา เป็นเหมือนสิ่งปลอบประโลม
สำหรับคนแปลกหน้าต่างถิ่นอย่างฉัน ที่เป็นเหมือนผู้บุกรุกเข้ามายังบ้านอันสงบสุขของพวกเขา
ตลอดเวลาที่อยู่ที่นี่
ฉันรู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนแปลงที่กำลังค่อย ๆ คืบคลานเข้าสู่ดินแดนแห่งนี้
คนท้องถิ่นที่นี่หลายคนต้องแปรสภาพจากที่เคยมีชีวิตบนหลังม้า ปลูกบ้านกระโจม
หรือ บ้านซุงหลังเล็กๆ กลายมาเป็นคนงานก่อสร้าง เพื่อเตรียมรองรับนักท่องเที่ยวที่กำลังจะทวีจำนวนขึ้น
หลังจากที่ดินแดนแถบนี้พึ่งจะถูกเปิดบริสุทธ์มาไม่ถึง 3 ปี และ สภาพชีวิตผู้คนที่กำลังค่อยๆ
ถูกทำให้เปลี่ยนไป จากกระแสการพัฒนาที่กำลังกลายเป็นกระแสหลักที่ไหลท่วมท้นไปทั่วทั้งผืนแผ่นดินจีนในขณะนี้
แม้แต่ดินแดนชายขอบที่ไกลแสนไกล และ เข้าถึงได้ยากลำบากขนาดนี้ ก็ไม่ถูกละเว้นจากการกลืนกลายของแสยุคเงินตรา
วัตถุไปได้ ฉันได้เพียงแต่หวังอย่างลมแล้งว่า จะพอมีเนื้อที่เหลือไว้บ้างกับศักดิ์ศรี
และความเป็นเอกลักษณ์ของชนชาวพื้นเมือง ขออย่าได้ให้กระแสพัฒนาเหล่านี้ขับต้อนพวกเขา
จนต้องถูกลดค่าลงกลายเป็นเพียงแรงงานราคาถูก หรือ วัตถุ ประดิษฐกรรมเพื่อการท่องเที่ยวเลย
ฉันจากดินแดนแห่งนี้มาในวันที่การเปลี่ยนแปลงกำลังทำหน้าที่ของมัน
แต่ฉันก็ยังเชื่อว่า อย่างน้อยแดดใสจะยังคงไม่ละทิ้งหน้าที่ของมันไปจนตลอดฤดูใบไม้ผลินี้
และสายลมเย็นก็คงอยู่คู่กับที่นี่ไปตลอดเช่นกัน ฉันได้แต่กล่าวย้ำเตือนในใจตัวเองขณะภาพสุดท้ายของฮานาสกำลังทิ้งตัวไกลไปกับความลางเลือนเบื้องหลัง
จากนี้ไปจนถึงกาลใดในวันหน้า หากมีใครทำให้ฉันนึกถึงฤดูกาล แห่งใบไม้ผลิ
ฉันคงจะคิดถึงแต่ "ฮานาส"
รักจ๊ะ
|